ขอเริ่มต้นด้วยคำว่า เฮ่ย! ขายภาพออนไลน์มีด้วยหรอ ? นั่นเป็นสิ่งแรกเจ้าของบล็อกพูดหลังจากที่เพื่อนมาบอกว่าเราสามารถนำภาพที่ถ่ายเล่นๆ หรือถ่ายแบบจริงๆ จังๆ ส่งขายได้
และแล้วเจ้าของบล็อกก็ไม่รอช้า หลังจากรู้เรื่องนี้ไปสมัครเลย เว็บแรกที่สมัครขายคือ 123RF สำหรับเว็บนี้มีมีการแข่งขันกันสูงมาก เนื่องจากไม่สอบตอนสมัคร ส่งภาพขายได้เลยไม่ยุ่งยากมาก ไม่ใช้ช่างภาพมืออาชีพก็ส่งขายได้ ด้วยเหตุผลข้างต้นเจ้าของบล็อกจึงเลือกเว็บนี้เป็นเว็บแรก
ต่อมา Shutterstock เว็บนี้ มาตฐานสูงขึ้นมาหน่อย ก่อนที่ส่งภาพขายเราต้องส่งภาพไปสอบจำนวน 10 ภาพ ผ่าน 1 ภาพ ก็สามารถส่งภาพขายได้แล้ว ใช้บัตรประชนสมัคร สำหรับเว็บนี้บอกเลยว่า เจ้าของบล๊อกไข่แตกได้โหลดแรกมาด้วยเว็บนี้แหละ ใช้เวลาในการทำครบหนึ่งเดือนพอดี ตอนนี้ก็ส่งขายเว็บนี้เป็นหลัก ภาพที่ผ่านการตรวจจากเว็บ ก็นำไปขายขายที่อื่นด้วย หลังจากที่ได้โหลดแรกมาก็พอจะรู้แนวว่าภาพไหนขายได้ อยากให้คนที่เริ่มทำใหม่ๆเหมือนเจ้าของบล็อกอย่าพึ่งเริ่มท้อใจ ลองหลายๆแนวส่งไป พยายามค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อปรับปรุงผลงานตัวเอง และอย่าส่งภาพที่ละหลายๆภาพ จะทำให้ภาพเราจมได้ง่าย ตอนแรกๆเจ้าของบล็อกก็ส่งครั้งละหลายภาพ ต่อมาก็เริ่มคิดขึ้นว่าส่งภาพอย่างนี้ ไม่ดีแน่ สมมติว่าเจ้าของบล็อกส่งภาพดอกไม้ไป ผ่านการตรวจและลงขายตอน 9.00 น. ภาพของเจ้าของบล็อกก็จะอยู่ในหน้าแรกของคีย์เวริดดอกไม้ ต่อมาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเจ้าของบล็อกกลับมาค้นหาภาพของตัวเองโดยใช้คีร์เวิร์ด คือ ดอกไม้ ปรากฏว่าภาพของเจ้าของบล็อกไม่ได้อยู่หน้าแรกของคีร์เวิร์ดดอกไม้ แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาหลังจากภาพดอกไม้ของเจ้าของบล็อกลงขาย ก็จะมีภาพดอกไม้ของคนอื่นลงขายตามมาด้วย ทำให้ภาพของเราค่อยๆขยับเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หายไปจากหน้าแรก แต่เรื่องนี้ก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เราฝังคีเวิร์ดลงในภาพ เพราะการฝังคีร์เวิร์ดจะทำให้ลูกค้าหาภาพเราเจอ เราต้องใส่ใจตรงนี้เป็นพิเศษ
เจ้าของบล็อกขอเล่าประสบการณ์ไว้เพียงเท่านี้ก่อน เพราะเจ้าของบล็อกเองก็ยังมีประสบการณ์ในการขายไม่มาก ไว้เจ้าของบล็อกมียอดขายครบห้าร้อยเหรียญเมื่อไรจะมาเขียนเล่าประสบการณ์อีกครั้งหนึ่ง และหากมีอะไรจะเสนอแนะรบกวนคอมเม้นกันได้เลยครับ
0 ความคิดเห็น